ผมตกใจทุกครั้งที่โดนรถเมล์ตดใส่...
รถเมล์มักตดใส่ผมเสมอๆ...
ผมไม่รู้ทำไมรถเมล์ชอบตดใส่ผม...
ผมไม่รู้ด้วยซ้ำทำไมรถเมล์ต้องตด...
ผมไม่เคยเห็นรถเมล์กินถั่ว...
ผมไม่เคยเห็นรถเมล์กินอะไรเลยนอกจากน้ำมัน...
ทำไมรถเมล์ถึงตด...
นี่อาจจะเป็นปริศนาอย่างหนึ่งของจักรวาลก็เป็นได้...
ผมไม่เคยเห็นรถยนต์ตด...
ผมไม่เคยเห็นรถสามล้อตด...
คนขี่รถสามล้ออาจจะตด...
แต่ผมไม่เคยเห็นรถอะไรตดเลยนอกจากรถเมล์...
ทำไมถึงมีแต่รถเมล์ที่ตด...
นี่อาจจะเป็นปริศนาอีกอย่างหนึ่งของจักรวาลก็เป็นได้...
รถเมล์ตดไม่เหม็น...
แต่ผมก็ตกใจทุกครั้งที่โดนรถเมล์ตดใส่...
ผมแค่อยากขอให้รถเมล์ตดน้อยลงบ้าง...
อย่างน้อยก็แค่ตดใส่ผมน้อยลงก็ยังดี...
before tomorrow...
2013-06-10
รถเมล์ตด...
2013-06-05
อนาคต...
เธอกำลังจะไป...
เธอบอกว่าเธออยากให้ผมอยู่...
จริงๆ แล้วเธอก็ไม่ได้ไม่ดีอะไร...
อาจจะไม่ได้สมบูรณ์แบบแต่ก็ไม่ได้ถึงกับไม่ดีอะไร...
แต่คงเป็นเพราะเธออีกคน...
กับอีกหลายๆ เหตุผลที่ผมเองก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร...
เธอบอกผมว่าอีกสามเดือนเธอกลับมาเราต้องเจอกันนะ...
ผมทำได้เพียงหัวเราะเจื่อนๆ...
อนาคต แม้แต่ตัวผมเองก็ไม่อาจรู้ได้จริงๆ...
2013-05-31
" หากเราอดทนมากพอ วันที่ดีจะมาถึงเสมอ... "
มีใครเคยกล่าวมาก่อนมั้ย ไม่รู้...
รู้แต่วันนี้ผมกล่าว ( กับตัว ) เอง...
2013-05-13
เราสามคน...
วันนี้เราสามคนได้พบกัน ผม ตัวผมในวันนี้ และตัวผมในวันวาน...
ตัวผมในวันนี้หัวเราะเยาะความโง่เง่าของผมในวันวาน...
ตัวผมในวันวานหัวเราะเย้ยหยันความสิ้นหวังของผมในวันนี้...
มีเพียงผมที่หัวเราะไม่ออก...
2013-05-06
ลูกธนู...
แขนซ้ายประคองคันเหยียดตึง...
มือขวารั้งสายจรดปลายคาง...
สายตาผ่านศูนย์เล็งจับอยู่ที่เป้าหมายนิ่ง...
ทุกสิ่งรอบตัวคล้ายกับหายไปชั่วขณะหนึ่ง...
เคยมีคนบอก ผูกความทุกข์ไว้กับหินแล้วขว้างทิ้งไป...
วันนี้ผมลอง ผูกความเศร้าไว้กับลูกธนูแล้วยิงออกไป...
รู้สึกโล่งใจอย่างประหลาด...
เสียงสัญญาณดังขึ้น...
ผมเดินกลับไปเก็บความเศร้าของผมกลับมา...
2013-04-27
the forgotten time...
เสียงเพลงจากแซคสีเงินด่างยังดังอยู่ในหู...
ถึงจะยังตะกุกตะกักแต่ก็พอฟังเป็นเพลง...
ผมฝึกเล่นเพลงนี้ให้เพื่อนของผม...
เขาชอบแซคโซโฟน และเขาก็ชอบเพลงนี้...
ถ้าเป็นเขา คงเล่นเพลงนี้ได้ดีกว่าผม...
ผมหวังว่าเพลงนี้ที่ผมเล่น จะดังไปถึงเขา...
สักวัน...
2013-04-24
กลับมา...
เกือบสองปีแล้วที่ผมไม่ได้กลับมาเขียนอะไรที่นี่...
ถ้าจะให้ถูกที่สุด ต้องเรียกว่าเกือบสองปีแล้ว...
ที่ผมแทบจะไม่ได้เขียนอะไรเลย...
เวลา บางครั้งก็คล้ายผ่านไปอย่างเชื่องช้า...
แต่กว่าจะรู้ตัวบางทีก็ผ่านไปนานกว่าที่เรารู้สึก...
เรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย...
ทั้งรอบตัวเรา ทั้งในใจเราเอง...
ทั้งที่ฝังลึกลงไปในความทรงจำ ทั้งที่ลืมเลือนลาง...
วันนี้คงไม่มีคำพูดใดเหมาะไปกว่า...
" กลับมาแล้วครับ... "
แม้ไม่รู้เลยว่าจะอยู่ไปอีกนานแค่ไหน...
2011-07-14
เส้นทางที่มืดมิด...
ผมเลือกที่จะปิดตาเดินไปบนหนทางที่แสนมืดมิด...
เพราะเมื่อทางที่เดินช่างมืดมิดจนมองไม่เห็นอะไร...
ก็คงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะเปิดตาเดินไป...
2011-07-11
หิ่งห้อยที่อาศัยอยู่ในตาของผม...
หลายวันก่อนมีต้นไม้ใหญ่ขึ้นในดวงตาของผม...
ต่อมาไม่นานก็มีหิ่งห้อยมาอาศัยทำรัง...
ในเวลากลางคืน ผมเห็นหิ่งห้อยมากมายบินวนไปมา...
หิ่งห้อยครูกำลังสอนหิ่งห้อยนักเรียนร้องเพลง...
หิ่งห้อยนักธุรกิจบินสวนกันวุ่นวายเพื่อไปทำงานให้ทัน...
หิ่งห้อยพ่อแม่ลูกนั่งกินข้าวกันที่หางตาของผม...
หิ่งห้อยคู่รัก นั่งพลอดรักกันอยู่ที่ขนตาล่างเส้นที่สาม...
ผมรู้สึกร้อนที่นัยน์ตา...